น.ส.ตรีนุช เทียนทอง เปิดเวทีสัมมนาสภา น.ร.ปี’66

น.ส.ตรีนุช เทียนทอง เปิดเวทีสัมมนาสภา น.ร.ปี’66

น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) กล่าวตอนหนึ่งในการเป็นประธานเปิดการอบรมสัมมนาสภานักเรียน สังกัด สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ระดับประเทศ ประจำปี 2566 “ สภานักเรียน สพฐ.สานต่อแนวทางที่สร้างสรรค์ เรียนรู้อย่างเท่าทัน มุ่งมั่นพัฒนาประชาธิปไตย” ว่า สภานักเรียนมีมายาวนาน แต่กลับหยุดชะงักไปเนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19

การจัดกิจกรรมสัมมนาสภานักเรียน เป็นเวทีที่ สพฐ.โดยมีตัวแทนสภานักเรียนระดับมัธยมศึกษา จังหวัดละ 1 คน พร้อมครูที่ปรึกษาสภานักเรียนจังหวัดละ 1 คนเข้าร่วม ซึ่งปีนี้จัดขึ้นระหว่างวันที่ 11 – 14 มกราคม ศธ.ให้ความสำคัญกับสภานักเรียนอย่างยิ่ง เพราะเป็นกลไกให้นักเรียนได้เรียนรู้บทบาทหน้าที่ในการปกครองระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เคารพในสถาบันหลัก เข้าใจความเป็นมาของประวัติศาสตร์ที่ถูกต้อง

รวมถึงเป็นเวทีในการพัฒนาเด็กและเยาวชนให้แลกเปลี่ยนแนวความคิด และได้รับประสบการณ์ในการเสริมสร้างทักษะการดำรงชีวิต สร้างการมีส่วนร่วมของตัวแทนนักเรียน ในการแสดงข้อคิดเห็น ข้อเสนอแนะ เพื่อการยกระดับคุณภาพทางการศึกษาของประเทศ อีกทั้งยังเป็นวาระของการคัดเลือกประธาน และคณะกรรมการสภานักเรียนระดับประเทศด้วย

น.ส.ตรีนุช กล่าวต่อไปว่า ศธ. ตระหนักถึงพลังของเด็กและเยาวชน ที่จะเป็นกำลังสำคัญ ในการนำพาสังคม และประเทศชาติให้ก้าวเดินไปข้างหน้าได้อย่างแข็งแกร่ง มั่งคง และเป็นภารกิจหลักของ ศธ.ในการทำให้เด็กและเยาวชนไทยทั้งประเทศ ได้รับโอกาสทางการศึกษาที่มีคุณภาพ เป็นคนดี และคนเก่ง เป็นพลเมืองที่ดีของชาติ มีความรู้ความเข้าใจถึงรากฐานประวัติศาสตร์ และความเป็นมาของประเทศ เพื่อเป็นบทเรียนสำคัญในการคิดวิเคราะห์ และสังเคราะห์

เพื่อนำองค์ความรู้ที่ได้มาพัฒนาประเทศให้มีความสามารถทางการแข่งขันในเวทีนานาชาติ ทั้งนี้ การเรียนรู้วิชาประวัติศาสตร์ ศธ.มีนโยบายการจัดการเรียนการสอนประวัติศาสตร์แบบ คิด วิเคราะห์ ไม่เน้นการท่องจำ นอกจากนี้ ศธ.ยังมุ่งเน้นในมิติสำคัญต่างๆ ที่จะช่วยส่งเสริม สนับสนุนในการสร้างโอกาส และความเสมอภาคทางการศึกษาได้อย่างเท่าเทียม เช่น โครงการพาน้องกลับมาเรียน การเสริมสร้างความปลอดภัยในสถานศึกษา การใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในโลกปัจจุบัน เป็นต้น

น.ส.ตรีนุช เทียนทอง

“การอบรมสัมมนาสภานักเรียนในครั้งนี้ ศธ.อยากรับฟังความเห็นน้องๆสภานักเรียน ที่เป็นตัวแทนของเพื่อนนักเรียนจากทุกจังหวัดทั่วประเทศ ซึ่งเป็นผู้มีส่วนได้ส่วนเสียโดยตรง มาสะท้อนข้อคิดเห็นในทุกมิติของทางการศึกษา ทั้งในทางกว้าง และทางลึกถึงแนวทางการเรียนการสอนที่เหมาะสมว่า ควรมีรูปแบบเรียนการสอนอย่างไร การเรียนวิชาประวัติศาสตร์อย่างไรควรมีรูปแบบใดบ้าง มีการประเมินผลอย่างไร รวมถึงข้อคิดเห็นต่างๆในบริบทของการศึกษา เพื่อให้การศึกษาไทยได้รับการยกระดับคุณภาพมากยิ่งขึ้น ซึ่งความเห็นต่างๆที่เกิดขึ้นจากการอบรมสัมมนานี้ น้องๆที่เป็นผู้แทนสภานักเรียนสามารถนำเสนอต่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีได้ ในวันที่ 14 มกราคมนี้ ซึ่ง ศธ.จะนำคณะสภานักเรียนเข้าคารวะและรับฟังโอวาทจากนายกรัฐมนตรี เชื่อมั่นว่าการเรียนรู้ผ่านกิจกรรมในครั้งนี้ จะเป็นการเพิ่มศักยภาพของเด็กนักเรียนไทย รวมถึงนำไปสู่การขยายผลสู่ระดับโรงเรียนในแต่ละจังหวัดทั่วประเทศ” น.ส.ตรีนุช กล่าว

ตัวแทนนักเรียนชั้น ม.2 โรงเรียนบ้านสวนหลวง (รัตนวิจิตรพิทยาคาร) จ.สมุทรสาคร กล่าวว่า ในวันเด็กปี 2566 นี้ อยากให้นายกรัฐมนตรี และ ศธ. สนับสนุนเทคโนโลยีให้นักเรียนได้เรียนในห้องเรียนเพิ่มขึ้น และอยากให้สนับสนุนอุปกรณ์ต่างๆให้นักเรียนได้ทดลอง เพื่อให้นักเรียนได้เรียนอยากสนุก เพราะถ้าเรารู้ทฤษฎีแต่ไม่ได้ทดลองเลย เราอาจจะไม่รู้และเข้าใจจริงๆ

ด้านนายกฤติภูมิ สุดแสวง หรือน้องมังกร นักเรียนชั้น ม.5 โรงเรียนวัดราชโอรส กรุงเทพฯ กล่าวว่า อยากให้รัฐบาลพัฒนาและช่วยเหลือให้เด็กไทยสามารถเข้าถึงเทคดนโลยีได้มากขึ้น เพราะปัจจุบันประเทศเราก็เข้าสู่ ไทยแลนด์ 4.0 แล้ว อีกทั้งปัจจุบันโลกเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ดังนั้นควรจะสนับสนุนให้นักเรียนและประชาชนเข้าถึงเทคโนโลยีเพื่อการเรียนรู้ได้ง่ายขึ้น

“จากที่ผมติดตามข่าว พบว่ายังมีเด็กไทยจำนวนมากที่หลุดออกจากระบบการศึกษา จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะ ศธ. ติดตามเด็กเหล่านี้ให้กลับเข้าสู่ระบบการศึกษา เพื่อสร้างความเท่าเทียม และลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาได้” นายกฤติภูมิ กล่าว

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ mosheimmansion.com

แทงบอล

Releated